วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ไปรษณีย์ไทย ดันสินค้าโอทอปรับ ”เออีซี”

ไปรษณีย์” พร้อมรับศึกเออีซี ลุยเต็มสูบธุรกิจโลจิสติกส์-อีคอมเมิร์ซ เน้นสนองนโยบายรัฐ ปั้นที่ทำการไปรษณีย์ช่วยเหลือชาวสวนกระจายผลิตผลและสินค้าโอทอป

นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ ประธานกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) นั้น นับเป็นโอกาสที่ดีของไปรษณีย์ที่จะนำศักยภาพด้านการให้บริการมาพัฒนาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้องค์กร โดยไปรษณีย์ได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ในเบื้องต้นได้มีการเจรจาขยายความร่วมมือไปยังการไปรษณีย์ของประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อร่วมมือกันขนส่งและกระจายสินค้าระหว่างกัน

ปรับโฉมที่ทำการไปรษณีย์สู่ไฮเทค

อีกทั้งอาจขยายความร่วมมือไปยังญี่ปุ่น จีน เกาหลีด้วย เพื่อความแข็งแกร่งของไปรษณีย์ไทย และยังได้จ้างการไปรษณีย์ฝรั่งเศสเป็นที่ปรึกษาในการศึกษาลู่ทางการร่วมลงทุนกันพันธมิตรต่างๆ รวมถึงการวางแผนแนวทางการพัฒนาธุรกิจไปรษณีย์ไทยเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย เพราะเชื่อว่าภาคบริการจะมีการแข่งขันสูงเมื่อมีการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ยังจะขยายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce) ให้มากยิ่งขึ้น เพราะธุรกิจผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในวงกว้าง เนื่องจากสะดวกสบาย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนั้น กลุ่มธุรกิจดังกล่าวจึงเป็นอีกโอกาสหนึ่งของไปรษณีย์ไทย
ขณะเดียวกันจะพัฒนาที่ทำการไปรษณีย์ไทยให้มีบริการอินเตอร์เน็ตเพื่อบริการประชาชนด้วยสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนได้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตอย่างทั่วถึง โดยไปรษณีย์จะเดินหน้าให้ที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศมีบริการไวไฟให้บริการด้วยเช่นกัน

“สิ่งสำคัญของไปรษณีย์ไทยขณะนี้คือการปรับระบบไอทีทั้งหมดให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพ เพราะระบบไอทีถือเป็นหัวใจสำคัญเช่นกันที่จะเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, โลจิสติกส์, การเชื่อมโยงกับไปรษณีย์เพื่อนบ้าน แต่ปัจจุบันระบบไอทียังไม่สมบูรณ์ ดังนั้น บอร์ดและฝ่ายบริหารจะต้องเร่งปรับปรุงให้ดีมีประสิทธิภาพ”

ปรับบทบาทกระจายสินค้าโอทอป

นอกจากนี้ ไปรษณีย์จะช่วยกระจายสินค้าเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญมากเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและช่วยลดพ่อค้าคนกลางในการกดราคาสินค้า โดยในส่วนของไปรษณีย์ก็จะช่วยจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ เช่น ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง ลองกอง เป็นต้น หรือเมนูอาหารอร่อยทั่วไทยสั่งได้ที่ไปรษณีย์ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น อีกทั้งจะช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) อีกทางหนึ่งด้วย

นายเอนกกล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่ามีการส่งจดหมายผิดบ้าน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการชำระหนี้ โดยเฉพาะเรื่องบัตรเครดิต ซึ่งบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งที่การส่งจดหมายผิดบ้านหรือไม่ตรงตามที่อยู่นั้น เป็นเพราะมีการจ้างพนักงานรายวันช่วยส่งจดหมาย เนื่องจากบุรุษ ไปรษณีย์ไทยส่วนใหญ่อายุมากใกล้เกษียณอายุ

“วิธีการที่จะแก้ไขปัญหานั้น ได้เสนอแนะการฝึกบุคลากรให้มีจิตสำนึกในการส่งจดหมายให้เหมือนบุรุษไปรษณีย์รุ่นก่อนๆ ขณะที่โรงเรียนการไปรษณีย์ก็จะขยายสาขาการเรียนด้านโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการขยายบริการของไปรษณีย์ จากปัจจุบัน เด็กที่เรียนจบจากโรงเรียนไปรษณีย์ มุ่งเน้นการทำงานในที่ทำการไปรษณีย์เพียงอย่างเดียว ดังนั้น ต้องกำหนดหลักสูตรให้หลากหลายสอดคล้องกับภารกิจของไปรษณีย์ไทย

กลไกหลักปล่อยสินเชื่อชุมชน

สำหรับบริษัท สินเชื่อไปรษณีย์ไทย จำกัดนั้น ปล่อยสินเชื่อให้ชุมชนรากหญ้าที่เข้าไปไม่ถึงแหล่งทุนนั้น ที่ประชุมบอร์ดเห็นชอบให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว และทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงการคลังเพื่อขอยกเลิก เนื่องจากเห็นว่ามีความซ้ำซ้อนกับธนาคารที่ได้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อให้กับรากหญ้าไปแล้ว ขณะเดียวกัน ขอเปลี่ยนเป็นการจัดตั้งบริษัทโลจิสติกส์ ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อเดินหน้าธุรกิจโลจิสติกส์อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท คาดว่าภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า น่าจะมีความชัดเจน

สำหรับการจัดตั้งบริษัท โลจิสติกส์ ไปรษณีย์ไทย น.ส.อานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไปรษณีย์ไทย กล่าวว่า ในปี 2555 ได้กำหนดเป้าหมายว่าจะมีรายได้รวม 17,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 850 ล้านบาท โดยเป็นการพัฒนาการให้บริการและเจาะตลาดทุกรูปแบบเพื่อสร้างรายได้ ขณะเดียวกันก็ใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่สร้างมูลค่า ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 18,500 ล้านบาท มีที่ทำการไปรษณีย์ 1,300 แห่งทั่วประเทศ มีพนักงานทั้งหมด 22,000 คน

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ได้ฝึกให้พนักงานทุกคนแสดงศักยภาพในการทำงานให้มากที่สุด เพราะถือเป็นบุคลากรที่คุณภาพที่จะช่วยสร้างรายได้และทำให้องค์กรแข็งแกร่ง และพร้อมที่จะแข่งขันเมื่อมีการเปิดเสรี โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และการร่วมเป็นพันธมิตรกับการไปรษณีย์ต่างประเทศ.



ไม่มีความคิดเห็น: